การดำน้ำแบบนันทนาการนั้นมีมานานกว่า 50-60 ปี ซึ่งอุปกรณ์ดำน้ำนั้นก็ได้มีวิวัฒนาการมาในเวลาใกล้เคียงกัน นักดำน้ำที่เข้ามาใหม่มีมากมาย และมีความต้องการในการเป็นเจ้าของอุปกรณ์ดำน้ำเป็นของตนเอง และมีนักดำน้ำที่มีประสบการณ์แล้วอีกมากมาย ที่ต้องหยุดการดำน้ำด้วยเหตุผลร้อยแปดพันประการ เช่น เบื่ออุปกรณ์ดำน้ำเดิมๆ อยากได้ของใหม่, เลิกกับคู่รักที่ดำน้ำด้วยกัน, เกษียณจากการดำน้ำเนื่องจากสุขภาพไม่อำนวย, หรือการอิ่มตัวจากการดำน้ำ และมีกิจกรรมแปลกใหม่ที่อยากทำมากกว่า เลยทำให้อุปกรณ์ดำน้ำของนักดำน้ำเหล่านี้ถูกนำมาขายในตลาดมือสองมากมาย และเป็นทั้งโอกาสที่ดีของนักดำน้ำที่มองหาอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพงอีกด้วย เราจึงอยากมาแบ่งปันข้อมูลการซื้อขายของมือสองกันว่าควรซื้ออะไร อย่างไร?
เก่าแค่ไหนคือหยุดเถิด อย่าใช้เลย
เร็กกูเลเตอร์นั้นมีรุ่นต่างๆออกมามากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งมีไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้น ที่สามารถหาอะไหล่ซ่อมบำรุงได้เป็นเวลายาวนาน กล่าวคือ ยี่ห้อที่สามารถซื้อขายในตลาดมือสองได้นั้น มีไม่กี่ยี่ห้อ และมียี่ห้อที่ไม่ควรซื้อเลย เพราะการหาอะไหล่ซ่อมแซมนั้นหายาก และหรือไม่มีตัวแทนจำหน่ายในเวลาปัจจุบัน ก็ย่อมมีความเสี่ยงในการใช้งานระยะยาวได้ ซึ่งนั่นก็คือแบรนด์ใหญ่ๆ หรือแบรนด์ที่ยังมีตัวแทนจำหน่ายชัดเจนอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งบางยี่ห้อ สามารถใช้ได้เป็น 10-20 ปีได้อย่างสบาย โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่มากนัก จริงอยู่ที่อะไหล่ภายนอกบางตัวนั้นอาจไม่มีผลิตแล้ว แต่ชุดซ่อมนั้นมักจะมีครอบคลุมเสมอ ก่อนซื้อเร็กมือสอง ให้ปรึกษาเราก่อนก็ได้
เพราะงั้นเราจะเห็นได้ว่าเร็กเก่าๆ เราก็ยังหาอะไหล่ใช้ได้สบายๆ ถ้าดูแลรักษาดีๆ บางรุ่นนั้นเป็นมรดกได้เลย ซึ่งก็จะเห็นได้ง่ายว่าเร็กกูเลเตอร์อายุมากกว่า 10 ปี performance แทบไม่แตกต่างจากรุ่นใหม่ล่าสุดหากผ่านการซ่อมบำรุงที่ถูกต้อง เพราะเร็กที่เก่าที่สุดพี่บูใช้นั้นตั้งเป็น scubapro ตั้งแต่ปี 1984 เลยทีเดียว และยังมั่นใจว่าก็ยังหาอะไหล่ได้ในปี 2024 นี้ด้วย พี่บูเลยมองว่าอายุการใช้งานของเร็กกูเลเตอร์เนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 15-20 ปี ซึ่งเรามักจะเบื่อ แล้วซื้อใหม่กันก่อนแล้ว
แต่ยี่ห้อเร็กกูเลเตอร์ที่ไม่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศแล้วนั้น พี่บูแนะนำว่าอย่าไปยุ่งเลย อาจจะเป็น one time use ถึงเวลาแล้วต้องทิ้งก็เป็นได้ หรือควรสอบถามหากผู้นำเข้านั้นเป็นตัวแทนจำหน่ายให้หลายแบรนด์ จะมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะไม่มีอะไหล่ของทุกแบรนด์ที่เขาเป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่ก็เป็นได้ มาถึงที่นี่ก็จะต้องกล่าวถึงแบรนด์ Bism กันซักเล็กน้อย เนื่องจากเร็กกูเลเตอร์ยี่ห้อนี้มีนโยบายลงทะเบียนสินค้ากลับที่ไปที่ญี่ปุ่นเพื่อให้ระบุ serial number ได้ว่าเร็กกูเลเตอร์ชุดนั้นจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ประเทศใด ซึ่งทางต้นทางจะส่งชุดซ่อมไปยังตัวแทนจำหน่ายที่ประเทศที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ไม่สามารถนำไปซ่อมบำรุงที่อื่นได้ กล่าวคือ ถ้าเจอเร็กกูเลเตอร์ Bism มือสอง แล้วถ้าไม่ได้มาจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไท เจ้าเร็กกูเลเตอร์ตัวนั้นจะไม่ได้รับชุดซ่อมจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย จะเป็นที่ทับกระดาษเมื่อถึงรอบซ่อมแซมนั่นเอง อาจจะมีช่างซ่อมบางท่านสามารถเทียบอะไหล่ได้ ก็ต้องให้เจ้าของเร็กกูเลเตอร์ลองพิสูจน์ต่อไปนั่นเอง ซึ่งเป็นโยบายจากบริษัทแม่ ไม่ได้เป็นนโยบายจากผู้นำเข้าในประเทศไทยเป็นอย่างไร การซื้อขายเร็ก Bism มือสองจึงจำเป็นจะต้องมีใบเสร็จ/หรือคำยืนยันจากผู้นำเข้าว่าสามารถส่งไปซ่อมบำรุงได้ เพราะ Bism ไม่อนุญาตให้ช่างเทคนิกดำน้ำที่ไม่ได้เป็นพนักงานของผู้นำเข้า เป็นคนซ่อมบำรุง จะต้องซ่อมบำรุงกับทางผู้นำเข้าเท่านั้น
ซื้อกับผู้ใช้ กับซื้อจากร้าน แบบไหนดีกว่ากัน
เราอยากให้คุณคิดถึงซื้อรถมือสองซักคันหนึ่ง มันจะมีคำว่า"รถบ้าน"กับ"รถเต้นท์" ซึ่งก็จะเป็นชื่อเรียกตามช่องทางที่เราซื้อมา จะเรียกว่า "เร็กบ้าน" กับ "เร็กเต้นท์" ก็ว่าได้ ว่าซื้อมาจากผู้ใช้ หรือซื้อมาจากตัวกลางนั่นเอง
ซึ่งถ้าเราตรวจสภาพอุปกรณ์ดำน้ำเป็น มีถังดำน้ำเพื่อทดสอบการใช้งาน หรือไปดีลกันบนทริปดำน้ำ การซื้อจากผู้ใช้ ก็จะค่อนข้างแน่ใจได้ถึงประวัติการใช้งาน ลักษณะการใช้งานของเจ้าของเดิม ลักษณะการดูแลรักษา ฯลฯ แต่ในความเป็นจริงยังมีความยุ่งยากซ่อนอยู่ เช่นการนัดพบนัดซื้อกันแต่ละครั้งอาจกินเวลาพูดคุยและเวลาเดินทาง โดยไม่แน่ใจว่าจะปิดการซื้อขายได้หรือไม่ รวมไปถึงความเสี่ยงที่จะเจอมิจฉาชีพ ฯลฯ ซึ่งนักดำน้ำหลายๆคนก็ไม่อยากจะเสียเวลากับการรอคอย การเดินทางต่างๆ หรือมีการเทิร์นสินค้ากับทางร้านดำน้ำ จึงมีการฝากวางขายผ่านร้านเกิดขึ้น
การวางขายผ่านร้านนั้นมีแต่ข้อดี เนื่องจากร้านเป็นผู้รับผิดชอบต่อสินค้านั้นๆ ทั้งซื้อเข้า และขายออก โดยร้านดำน้ำจะมีการตรวจสภาพที่ชัดเจน ระบุประวัติการใช้งาน รวมไปถึงการรับประกันสินค้าที่ออกจากร้านไปด้วย และเป็นการผ่านตัวกลางที่มีความน่าเชื่อถือ และมั่นใจในตัวสินค้าได้ 100% เรื่องความปลอดภัย ไม่ใช่ของโจร เพราะร้านต้องปกป้องตัวเองจากคดีความเช่นกัน
ระวังเร็กราคามิตรภาพ บริการมิจฉาชีพ
อย่างไรก็ดี การเลือกซื้ออุปกรณ์มือสองนั้นก็ไม่ได้เป็นที่น่าไว้วางใจเท่าไหร่นักด้วยการดึงดูดผู้ซื้อด้วยราคาเป็นที่เป็นมิจฯ และหรือเราไม่ทราบถึงอุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นว่าทำงานได้ถูกต้อง ปลอดภัยหรือไม่ มีการสลับไส้ในหรือเปล่า การเลือกซื้อเร็กกูเลเตอร์จึงควรเลือกซื้อกับผู้ขายที่มีเครดิตที่ดี เชื่อใจได้
บริการจาก Blue Culture Diving
เรามีบริการตรวจเช็ค รับฝากซื้อขาย เป็นตัวกลาง อุปกรณ์ดำน้ำมือสองให้กับนักดำน้ำ โดยมีการตรวจสอบจากทางฝั่งผู้ต้องการขาย รวมไปถึงการช่วยขายสินค้าลงไปยังช่องทางต่างๆเพื่อค้นหาผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ดำน้ำมือสองเช่นกัน ซึ่งสามารถติดต่อมายังทางร้านเพื่อรับบริการได้
Comentários