เลือกฟินส์ให้เหมาะกับการใช้งาน
อัปเดตเมื่อ 20 มิ.ย.
นักดำน้ำหลายท่านอาจรู้สึกว่าการเลือกฟินหนึ่งคู่ให้เข้ากับเท้าเราได้นั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนหลายคู่ ต้องลองด้วยตัวเอง แล้วค่อยตัดสินใจเลือกคู่ที่เหมาะกับการใช้งาน พี่บูจึงอยากแนะแนวทางการเลือกฟินให้เหมาะกับการใช้งานของนักดำน้ำที่มีโจทย์ที่หลายหลาย และมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน
ฟินสำหรับ Snorkeling, Skindiving ไม่จำเป็นต้องใช้ฟินราคาแพง ฟินใบเล็กๆก็ให้แรงเพียงพอต่อการเคลื่อนที่บนผิวน้ำแล้ว
ฟินสำหรับ Freediving ต้องเป็นใบยาว วัสดุทำจากพลาสติก, ไฟเบอร์, หรือคาร์บอน เพื่อรีดพลังงานออกมาให้ได้มากที่สุดในการออกแรงแต่ละครั้ง
ฟินสำหรับ Scuba Diving จะมีใบฟินไม่ยาวมาก ทำมาจาก พลาสติก, ยาง, โพลีเมอร์, หรือวัสดุ composite อื่นๆเพื่อความแข็งแรง ใบฟินไม่ควรจะนิ่มเกินไป เนื่องจากอุปกรณ์ดำน้ำต่างๆมีน้ำหนัก และต้านน้ำ จึงต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกฟินซักคู่มีดังนี้
ประเภทของ Foot Pocket
หลักๆจะแยกเป็น Open Heel Fins ที่เป็นลักษณะเป็นสายรัดส้นเท้า ที่มีทั้งแบบใส่รองเท้าบู๊ต หรือไม่ใส่อรองเท้าบู๊ตก็ได้ และ Full Foot Fins ที่สามารถสวมเหมือนรองเท้าปกติทั่วไปได้เลย ซึ่งก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป
Full Foot Fins
ข้อดี
น้ำหนักเบา เนื่องจากฟิน Full foot ไม่จำเป็นต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงเทียบเท่า open heel เพราะออกแบบมาให้สวมใส่ได้พอดีเท้าแล้ว
การส่งแรงจากเท้าสู่ฟิน จะทำได้ดีมาก ทำให้ใช้แรงได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
การจัดเก็บกระเป๋าง่ายกว่า เบากว่า และอุปกรณ์น้อยกว่า เพราะไม่ต้อใช้รองเท้าบู๊ต
โดยรวมราคาถูกกว่า เพราะไม่ต้องซื้อรองเท้าบู๊ตเพิ่ม
ข้อเสีย
ฟิน Full foot 1 ขนาดจะคร่อมไซส์ 1-2 ไซส์ (เช่น 38-39, 40-41) ทำให้นักดำน้ำที่เบอร์รองเท้าเล็ก อาจจะต้องใส่ถุงเท้าหนาๆ เพื่อกันฟินกัดเท้าได้ และทรง Foot Pocket ของแต่ละฟินแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีสรีระแตกต่างกัน บางครั้งการใส่ฟินจึงต้องไปเลือกด้วยตนเองก่อน
การให้เพื่อนยืมฟินที่ขนาดใกล้เคียงกัน มีโอกาสถูกเท้าเพื่อนระเบิดไซส์ ทำให้กลับมา Foot Pocket มีขนาดไม่เท่าเดิม อาจจะหลวมกว่าขนาดเท้าปกติได้
อายุการใช้งานของ Full Foot Pocket มีอายุการใช้งานสั้นกว่า Open Heel เพราะเมื่อ Foot Pocket ฉีกขาดแล้ว ต้องซื้อฟินคู่ใหม่เท่านั้น
ฟิน Full Foot จะต้องใช้เท้าเปล่า หรือเท้า+ถุงเท้าในการสวมใส่ฟิน ทำให้เท้าเปล่าไม่มีการป้องกันถ้าหากต้องเดินลงน้ำจากชายฝั่ง ที่มีหิน หรือเปลือกหอยที่บาดเท้าได้ หรือให้แหล่งน้ำที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น ก็จะไม่มีการป้องกันความหนาวเย็นจากเท้าได้ ซึ่งฟิน Full foot แทบจะเป็นฟินที่ใช้สำหรับแหล่งน้ำที่ไม่หนาวเย็นได้เท่านั้น เพราะถ้าหากใช้ Drysuit แล้ว ก็จะบังคับให้ใช้ฟิน Open Heel ไปโดยปริยาย
Open Heel Fins
ข้อดี
ให้การป้องกันเท้านักดำน้ำจากสภาพแวดล้อมด้านนอกดีกว่า เพราะมีรองเท้าบู๊ต ที่ป้องกันการบาดเจ็บจากชายฝั่ง และความหนาวเย็นได้
ฟิน Open Heel 1 คู่ จะให้คร่อมไซส์ได้ตั้งแต่ 2-4 ไซส์ (36-40, 42-46) เป็นต้น แต่เพราะนักด้ำใส่รองเท้าบู๊ตขนาดของตนเองแล้ว สามารถปรับสายรัดส้นให้กระชับเท้าได้พอดีได้
ฟิน Open Heel มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คงทน หากสายรัดส้นเสียหายสามารถหาอะไหล่เปลี่ยนได้
Barefoot Open Heel Fins ที่สามารถใส่เท้าเปล่าได้สามารถคร่อมไซส์ได้มาก ทำให้เป็นที่นิยมของร้านดำน้ำเพราะลดจำนวนฟินที่ต้องเก็บในร้านได้มาก
ข้อเสีย
ตัวฟินมีราคาอาจจะใกล้เคียงกับฟิน Full Foot ทั่วไป ถึงแม้ฟิน Open Heel บางรุ่นจะไม่ใช้รองเท้าบู๊ตแล้วก็ตาม แต่ส่วนใหญ่จะต้องใช้คู่กับรองเท้าบู๊ต ทำให้ต้องมีการลงทุนส่วนรองเท้าเพิ่มเติม
ฟิน Open Heel จำเป็นต้องทำโครงสร้างให้แข็งแรง จึงมักจะมีน้ำหนักมาก บางรุ่นอาจจะมากถึงข้างละ 1.5 - 2 กิโลกรัม ทำให้การเดินทางด้วยเครื่องบินจะต้องคำนึงถึงน้ำหนักกระเป๋าไว้ด้วย
การออกแรงแต่ละครั้งจะมีการสูญเสียพลังงานจากเท้าสู่ฟินที่มากกว่า เนื่องจากมีการออกแบบของฟินอาจทำให้มีการสูญเสียพลังงานตามสายรัดส้น ทำให้การใช้ฟิน Open Heel ต้องออกแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวโลกใต้ทะเลตามจุดต่างๆบนโลกใบนี้ย่อมมีอุณหภูมิน้ำ สภาพชายฝั่งที่แตกต่างออกไปนักดำน้ำที่ชอบท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จึกมักจะหาซื้อฟิน Open Heel ใช้เป็นของส่วนตัวมากกว่า
ใบฟินแข็ง อ่อน สั้น ยาวมีผลอย่างไร?
สรุปง่ายๆคือ ฟินอ่อนตีขาได้เร็ว ฟินแข็งดันน้ำได้แรง ชอบตีฟลัตเตอร์ ควรใช้ใบฟินที่ให้ตัวได้เยอะๆ ชอบตีกบ ต้องใช้ฟินที่มีความแข็งหน่อย
ใบฟินที่แข็ง และอ่อน มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างชัดเจนคือเรื่องของแรงที่ต้องใช้ในการเตะฟิน ฟินที่มีใบอ่อน จะช่วยให้นักดำน้ำที่มีแรงน้อยตีขาได้ง่าย ฟินกินน้ำน้อย โอกาสเป็นตะคริวก็จะลดลง แต่ข้อเสียก็คือเนื่องจากฟินที่มีใบอ่อน จะกินน้ำได้น้อย ทำให้ต้องเตะขาเพื่อเคลื่อนที่มากขึ้น หรือทวนกระแสน้ำลำบาก ซึ่งผู้ผลิตฟินที่ใบฟินอ่อน ส่วนใหญ่มักจะพกนวัตกรรมการออกแบบเล็กน้อย เพื่อให้ช่วยกินน้ำได้มากขึ้น หรือ ออกแบบให้ใบฟินยาวอีกซักนิด เพื่อเพิ่มพื้นที่ดันน้ำ (Thrust area) ให้นักดำน้ำเคลื่อนไหวได้สะดวกเพิ่มขึ้น
ส่วนฟินใบแข็งนั้น ใบฟินต้านน้ำได้ดี ดันน้ำได้เยอะ ก็เลยทำให้นักด้ำเคลื่อนที่ผ่านน้ำได้ดี ทวนกระแสน้ำได้ดีกว่าใบฟินที่อ่อน ใบฟินที่แข็งจะมีโครงสร้างที่ทำให้ใบฟินบิดตัวได้น้อย ทำให้ควบคุมฟินได้ดี สามารถตีกบ หรือตีถอยหลังได้ง่าย (แต่ต้องฝึกท่าตีด้วย) และใบฟินที่แข็ง ก็มักจะออกแบบให้ใบฟินไม่ยาวมาก สามารถเข้าที่แคบได้ง่าย อย่างไรก็ดีข้อดีก็ต้องแลกมาด้วยกับกำลังขาที่ต้องมีเพียงพอให้ใช้ในการออกแรงแต่ละครั้ง เพราะถ้ากล้ามเนื้อขาน้อย ก็จะเมื่อยล้าเร็ว โอกาสเป็นตะคริวที่น่องก็จะเพิ่มขึ้นตามมาอีกด้วย
Split Fins vs Paddle Fins
Split Fins หรือฟินปลายแฉก ที่มีการทำตลาดกันมาอย่างต่อเนื่องนั้น มีจุดเด่นคือรอยแยกตรงกลางใบฟินที่ทำให้การเตะขาทำได้ง่ายมาก เพราะร่องแยกจะยอมให้น้ำผ่านได้ง่าย ทำให้ใบฟินไม่กินน้ำเท่ากับ paddle fins ก็เลยไม่กินแรงน้อยกว่า แต่ต้องอาศัยการตีขาช่วงสั้นๆ ซ้ำๆ เร็วๆ ทำให้ปลายฟินที่แยกออกมานั้นสะบัดน้ำแล้วจะทำให้การเคลื่อนที่ไปได้เร็วขึ้น ก็สามารถสร้างความเร็วได้ดีกว่า และลดความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อขาได้
อย่างไรก็ดี Split Fins เป็นฟินที่คนมักจะมองว่าสู้กระแสน้ำไม่ดี และตีฟินในท่าต่างๆ ที่นิยมใช้กันใน technical diving ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่แคบและจุดที่ฝุ่นฟุ้งได้ง่าย จึงมักถูกนักดำน้ำส่วนใหญ่ด้อยค่าอยู่บ้าง แต่ในส่วนตัวที่เคยได้ลอง เพราะข้อดีของมันคือกินแรงน้อยในการตีขาแต่ละครั้ง มันจะเป็นฟินที่ถูกจริตการใช้งานกับนักดำน้ำที่มีแรงตีนฟินน้อย แต่ก็สามารถไปดำน้ำกับเพื่อนๆได้ ส่วนเรื่องการตีฟินท่าทางต่างๆ ก็ยังพอทำได้ แต่จะไม่ได้ดีเท่ากับ paddle fin เท่านั้นเอง
ฟินลอยน้ำ ฟินจมน้ำ ส่งผลอย่างไร?
ฟินที่ลอยหรือจมน้ำ อาจจะส่งผลต่อทริม (Trim) ได้เล็กน้อย แต่สุดท้ายด้วยการฝึกที่เหมาะสม นักดำน้ำสามารถปรับท่าดำน้ำให้อยู่ในทริมได้เสมอ นักดำน้ำที่รู้สึกขาลอย หรือขาจม อาจจะใช้ฟินที่ทดน้ำหนักให้เหมาะสมกับตนเองได้ ซึ่งทั้งนี้เป็นเรื่องของทักษะ และความชอบของแต่ละคน
วัสดุฟินกับความคงทน
ฟินมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แค่ยาวแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บและดูแลรักษาด้วย ฟินทุกชนิดไม่ควรปล่อยให้ตากแดดจัดนานๆ เนื่องจากความร้อนจะทำให้พลาสติกนั้นอ่อนตัวลงและเสียรูปได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าวัสดุฟิน มีผลต่อน้ำหนัก และความคงทน เช่น วัสดุ Monoprene หรือ Thermoplastic Vulcanizate ก็คงมีความแข็งแรงสู้ Rubber แท้ๆไม่ได้ แต่มันจะได้เปรียบเรื่องน้ำหนัก และการให้ตัวของวัสดุ ที่แตกต่างกันออกไปอีกที
บทส่งท้าย
ไม่มีฟินคู่ไหนที่เหมาะกับทุกคน แต่มันจะมีหนึ่งคู่ที่เหมาะกับคุณ จริงอยู่ที่เพื่อนที่มีประสบการณ์ดำน้ำมานานจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจอุปกรณ์ดำน้ำของเรา แต่อยากให้สำรวจตัวเองมากกว่า ลักษณะฟินแบบไหนดีกับเรา แล้วตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองจะดีที่สุด
ส่วนฟินที่เราแนะนำก็จะมีจะมีอยู่ไม่กี่รุ่น โดยที่ลงไว้ก็จะมีคะแนนให้ตามที่เราเทสกันมาด้วยตนเองบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นหลักๆคือ
Power คือแรงผลักน้ำที่ได้จากการตีขาแต่ละครั้ง ยิ่งค่า power มาก ก็ยิ่งลากอุปกรณ์ได้มาก ทวนน้ำได้ดี แต่ก็จะกินแรงมากเช่นกัน
Responsiveness คือช่วงเวลาระหว่างตีฟิน กับตอนที่นักดำน้ำเคลื่อนตัวจากการตีฟิน ยิ่งคะแนนมาก แปลว่าตีปุ๊ป มาปั๊ป ปุบปับรับโชค
Comfort คือความสบายขณะสวมเข้า/ถอดออก/และระหว่างสวมใส่
Control คือความสามารถในการควบคุมใบฟิน ถ้าค่า control ดี ก็ทำให้การบังคับฟินในท่าต่างๆ และการเคลื่อนที่ในที่แคบ ทำได้ดี
Review ที่เป็นความเห็นของผู้ใช้งานจริงๆ

GULL SUPERMEW
POWER: 5/10
RESPONSIVENESS: 7/10 COMFORT: 10/10
CONTROL: 6/10
Manufacture Origin: Japan
REVIEW: ฟินสีสวยยอดนิยมในหมู่คนไทยและคนญี่ปุ่น จากการผลิตจากญี่ปุ่นทำให้ผู้ใช้มั่นใจในคุณภาพของสินค้าจากโรงงาน Kinugawa แห่งนี้เป็นอย่างมาก ด้วยขนาดฟินที่ไม่ใหญจนเกินไป และเนื้อยางยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี ทำให้เวลาสวมใส่ฟินนี้มีความสบายเท้าเป็นอย่างมาก สามารถตีขาได้ทุกท่า ใบฟินมีความยืดหยุ่นทำให้สามารถตี Flutter Kick สลับได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ความเร็วในการว่ายน้ำทำได้ดี แต่การได้มาซึ่งความเร็วต้องรอรอบนิดนึง เพราะเป็นฟินที่เน้นตีสบายมากกว่าเน้นลากของหนักๆ ทำให้ฟินรุ่นนี้เหมาะที่จะใช้สำหรับถังดำน้ำไม่เกิน 2 ใบ เช่น Sidemount เพราะใบฟินที่อ่อนจะมีข้อเสียเปรียบในเรื่องการลากของหนักที่ทำได้ลำบากกว่าใบฟินที่แข็งนั่นเอง แต่ถ้าดำน้ำท่องเที่ยวปกติ Supermew XX ก็เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้ และสีสันสวยงามอีกด้วย

MARES AVANTI QUATTRO+
POWER: 7/10
RESPONSIVENESS: 7/10 COMFORT: 10/10
CONTROL: 7/10 Manufacture Origin: Bulgaria
REVIEW: สุดยอดฟินยอดนิยมของวงการดำน้ำ ที่มีผลงานด้วยยอดขายถล่มทลายทั่วโลก ที่บอกได้ว่าถ้าไม่รู้จะเลือกรุ่นไหน ไปรุ่นนี้ไม่มีผิดหวัง ถือว่าเป็น Industry Standard เลยก็ว่าได้ ถ้าฟินรุ่นไหนห่วยกว่าเจ้ารุ่นนี้ คือโยนทิ้งไปได้เลย จะเท้าแรงมาก เท้าแรงน้อย ใบฟินที่มีลักษณะยาว จะช่วยรีดน้ำออกไปได้ ทำให้ช่วยผลักน้ำไปได้อย่างดี ฟิลลิ่งในการตีจะนุ่ม ถึงแม้จะไม่กินน้ำเก่งเท่า Avanti Quattro รุ่นเก่าที่ใบฟินแข็งกว่า แต่เจ้าฟินรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบ เนื้อวัสดุถ้าไม่เอาไปโดนแดดก็มีความคงทนสูงมาก การตีขาทั้ง Flutter และ Frog Kick นั้นทำได้ดี ใบฟินให้ตัวได้พอสมควร ทำให้ตีฟินได้ทุกท่า แต่การควบคุมจะยังไม่คมเท่าไหร่ ข้อเสียคือสายบันจี้มักจะขาดเมื่อใช้งานไปซักพักหนึ่ง (ไม่เกิน 2 ปี) ควรหา stainless steel spring strap ติดไว้แทนจะทนทานกว่ามาก
การใช้ฟินสามารถลากถังได้ 4 ใบ โดยไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องหวังความเร็วอะไร ทำให้มันทำ Technical Diving ได้ และเนื่องจากใบฟินมีความยาวพอประมาณ เป็นความยาวที่สุด ที่พอจะเอาเข้าเรือจม หรือในถ้ำได้
ฟุตพอคเก็ตครึ่งบนเป็นยางกึ่งแข็ง ครึ่งล่างเป็นวัสดุโพลิเมอร์ ให้ความสบาย สามารถใส่ได้ยาวนาน การลอยตัวของฟินคือจมนิดเดียวทำให้รู้สึกสบายใต้น้ำเวลาอยู่ในท่าดำน้ำ
ฟินรุ่นนี้ถ้าโดนแดดจัดนานๆ หรือจัดเก็บแบบมีของหนักกดทับ จะทำให้ฟินเสียรูปไปโดยถาวร ควรระวังเก็บฟินให้เรียบร้อย

TECLINE LIGHTJET
POWER: 7/10
RESPONSIVENESS: 8/10 COMFORT: 10/10
CONTROL: 10/10
Manufacture Origin: Taiwan
REVIEW: มองหาฟินเบาๆ ไปรุ่นนี้ไม่มีผิดหวัง จะเท้าแรงมาก เท้าแรงน้อย ก็ใช้ได้ จึงเป็นที่โปรดปรานของของนักดำน้ำทุกกลุ่ม ฟิลลิ่งในการตีจะนุ่ม แต่ไม่นิ่มย้วย ยังมี Feedback ของฟินที่ดี สามารถควบคุมการเตะฟินได้ทุกท่า และมีพร้อมสายสปริงมาให้ การใช้งานทนทานยาวนาน
ฟุตพ็อคเก็ตขนาดใหญ่ รองรับได้หลายไซส์ ทำมาจากวัสดุ Thermoplastic Vulcanisate (TPV) เดียวกันทั้งชิ้น นิ่มแต่ไม่ย้วย แต่ให้ตัวได้ดี สวมใส่สบายได้ยาวนาน แต่มีปัญหาเรื่องคร่อมไซส์สำหรับคนเท้าไซส์ 40 ที่ควรลองฟินก่อน เพื่อปรับขนาดสายสปริงให้เหมาะสม การลอยตัวของฟินคือลอยนิดเดียวทำให้รู้สึกสบายมากใต้น้ำเวลาอยู่ในท่าดำน้ำ การใช้งานยังสามารถลากถังจำนวนมากได้ แต่แนะนำให้ไม่เกิน 4 ใบจะดีที่สุด เพราะใบฟินไม่ได้แข็งมาก และออกแบบมาให้ใช้ได้ง่าย และขาไม่ล้าจนเกินไปจากการใช้งานในแต่ละไดฟ์

DIVE RITE XT
POWER: 10/10
RESPONSIVENESS: 10/10 COMFORT: 10/10
CONTROL: 10/10
Manufacture Origin: China
REVIEW: ฮาร์ดคอร์ฟินสำหรับฟินทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ต้นตำรับมาจาก Apollo Prestige ก่อน Dive Rite นำมาทำตลาดขายในรุ่น XT ที่คนนิยมจนถึงทุกวันนี้ เป็นขวัญใจสาย Technical Diver อย่างมาก
ใบฟินเป็นวัสุดผสม Monoprene ด้านซ้ายขวา และยางตรงกลาง ให้พลังที่มาก เพราะ Monoprene มีการออกแบบความหนาแน่นให้ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ผลักน้ำได้ดีมาก ใบฟินมีความแข็งที่ทำให้สามารถควบคุมการตีฟินได้ทุกท่า ได้อย่างรวดเร็ว
ฟุตพ็อคเก็ตขนาดไม่ใหญ่ แต่มีไซส์ให้เลือก 4 ไซส์ S-M-L-XL ให้เลือกฟิตเหมาะพอดีเท้าได้ ด้วยความสามารถของมันเอง ตัวฟินจะลากนักดำน้ำที่มีถังมากๆสู้น้ำได้สบายๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกำลังขาที่เหมาะสมเช่นกัน การลอยตัวของฟินคือลอยตัวเป็นกลาง ค่อนไปทางจมนิดเดียวทำให้รู้สึกสบายใต้น้ำเวลาอยู่ในท่าดำน้ำ
ข้อควรระวังในการใช้งานคือ เนื้อฟินที่ผสานระหว่างยางกับ Monoprene สามารถฉีกขาดที่หลังเท้าได้

OMS SLIPSTREAM
POWER: 8/10
RESPONSIVENESS: 9/10 COMFORT: 8/10
CONTROL: 10/10
Manufacture Origin: Taiwan
REVIEW: ฟินยอดนิยมอีกคู่หนึ่งที่นิยมใช้กันมากในหมู่ Technical Diver ที่ผลิตมาจากวัสดุ Monoprene ทั้งชิ้นจึงการันทีความแข็งแรงทนทาน และแรงผลักที่ดี ความยืดหยุ่นที่พอดี ทำให้สามารถลากถังได้หลายไป ใบฟินสั้น ทำให้เข้าที่แคบได้ดีมาก การลอยตัวของฟินคือลอยตัวเป็นกลาง ค่อนไปทางจมนิดเดียวทำให้รู้สึกสบายใต้น้ำเวลาอยู่ในท่าดำน้ำ
ข้อเสียคือฟุตพ็อคเก็ตเมื่อใช้ไปนานๆจะเสียรูป วัสดุมีรอยพับตามหลังเท้าของผู้ใช้ ทำให้มีผลต่อการใช้งานเล็กน้อยเพราะการส่งพลังงานจากขาไปยังใบฟินมีประสิทธิภาพลดลง

DEEP6 EDDY FINS
POWER: 10/10
RESPONSIVENESS: 10/10 COMFORT: 7/10
CONTROL: 10/10
Manufacture Origin: Taiwan
REVIEW: ฟินสายแรง เท้ากำลังดีต้องมา กับฟิน DEEP6 EDDY ที่มีน้ำหนักเบา ลอยตัวเป็นกลางค่อนไปทางจมนิดๆใต้น้ำ วัสดุทำมาจาก Thermoplastic Vulcanizate ที่มีความหนาแน่นที่สูง ทำให้ใบฟินมีความสามารถในการผลักดันน้ำได้ดีมาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยฟุตพ็อคเก็ตที่มีความแข็ง อาจจะไม่ได้เหมาะกับเท้านักดำน้ำที่หลังเท้าสูงกว่าปกตินัก เพราะขอบฟินจะจิกกับหลังเท้าได้ ปัญหาเรื่องคร่อมไซส์สำหรับคนเท้าไซส์ 40 ที่ควรลองฟินก่อน เพื่อปรับขนาดสายสปริงให้เหมาะสม
แต่ความสามารถอื่นๆถืออยู่ในระดับแนวหน้า ฟิลลิ่งในการตีจะแน่น สามารถควบคุมการเตะฟินได้ทุกท่า และมีพร้อมสายสปริงมาให้ การใช้งานทนทานยาวนาน

SCUBAPRO JETFINS
POWER: 10/10
RESPONSIVENESS: 10/10 COMFORT: 7/10
CONTROL: 10/10
Manufacture Origin: Taiwan
REVIEW: ฟินคลาสสิคตลอดกาลของ SCUBAPRO ที่ทุกคนควรจะลอง หน้าตาแบบนี้ถือเป็นรุ่นบุกเบิก และทำให้ฟินที่มีลักษณะใบกว้าง แข็ง หนัก ถูกเรียกว่า JET FINS ตามชื่อของมัน วัสดุทำมาจากยางธรรมชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นฟินที่ทนทาน สามารถให้เป็นมรดกกับคนรุ่นหลังเลยก็ว่าได้ นักดำน้ำสายโหดจึงมักจะเฟ้นหาไว้ติดเท้าเสมอๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งล็อตที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา ที่เรียกได้ว่า ใบฟินแข็งไม่ปราณีใคร แต่ปัจจุบันย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศไต้หวัน และมีการพัฒนาคอมพาวนด์ยางให้มีความนุ่มมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงนักดำน้ำทั่วไปได้มากขึ้น
การลอยตัวของฟินคือจม น้ำหนักฟินข้างละ 2.1-2.3 กิโลกรัมทำให้นักดำน้ำบางคนถึงขั้นลดน้ำหนักตะกั่วที่ใช้ได้เลยด้วย แต่ต้องระวังเรื่องการเดินทาง้วยเครื่องบินเพราะฟินกินน้ำหนักกระเป๋าเดินทางไปเยอะ
การตีฟินคือเต็มสิบไม่มีหัก สามารถผลักน้ำได้ดี ยิ่งถ้านักดำน้ำขาแข็งแรงมากๆ จะพบว่าฟิน SCUBAPRO JET FINS ตีหนักได้ใจ ไปไหนก็ได้ ถือเป็นอีกหนึ่ง Top Choice ของนักดำน้ำ Technical Diver เพราะว่าความสามารถให้การลากของหนัก และใบสั้นพอที่จะเข้าที่แคบได้
ข้อดีของฟินรุ่นนี้คือความทนทาน ไว้ใจได้ ไม่ฉีกขาดระหว่างทาง เหมาะกับคนเท้าเบา ที่รู้สึกว่าเบาเกินไปแล้วต้องการปรับสมดุลย์ของน้ำหนักขาให้พอดี หรือนักดำน้ำที่ใช้เวทสูทหนา หรือ ดรายสูท จะเหมาะกับรุ่นนี้มากๆ
ข้อควรระวังคือฟินรุ่นนี้อยู่ในตลาดไม่น้อยกว่า 50 ปี แต่ 50 ปีนี้ก็มีการพัฒนาฟุตพ็อคเก็ตไม่มาก จึงทำให้ปกติคนมักจะใส่ Oversize นิดๆ เพื่อความสบายของเท้าที่ดีกว่า ควรไปลองที่ร้านดำน้ำก่อนตัดสินใจเลือกไซส์ออนไลน์ แต่รุ่นนี้ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลย
สนใจซื้อฟินทุกรุ่นทุกยี่ห้อ Blue Culture Diving มีบริการให้คำปรึกษาและเสนอราคาพิเศษสุดให้กับทุกคนที่ติดต่อเข้ามาเลย