ช่วงโควิคที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวไทย ก็ติดแหง็กอยู่ในประเทศ ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ แต่กลับพบว่าจำนวนนักดำน้ำ ก็ยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เนื่องจากโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถมรัวๆของธุรกิจดำน้ำริมทะเล เรือดำน้ำที่เคยรับลูกค้าต่างชาติ ต้องกลับมาฟาดฟันทำสงครามราคาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวดำน้ำ มาสำรวจโลกใต้ทะเลกันให้มากขึ้น
คนที่ดำน้ำอยู่แล้ว ดำน้ำกับเมืองไทยจนจำแผนที่ทุกไดฟ์ไซต์แล้วนั้น ก็ยังออกต่างประเทศไม่ค่อยจะได้ ก็หาทางเติมเต็มความสุขดำน้ำแบบใหม่ๆ ด้วยการเรียนหลักสูตรเพิ่มเติมกับครูสอนดำน้ำของตนเองเป็นการแก้เซ็ง แก้คัน และเพิ่มพูนทักษะการดำน้ำขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นข่าวดีสุดๆสำหรับนักดำน้ำที่จะพัฒนาการดำน้ำให้มีความปลอดภัยได้มากขึ้นไปอีก
คำถามที่มักจะพบเห็นบ่อยๆจากนักดำน้ำที่มาร่วมทริปกัน คือ เรียนต่อ Divemaster ดีไหม? แล้ว Technical Diving คืออะไร? แล้วมันแตกต่างกันยังไงนะ?
ความแตกต่างหลักๆคือ Divemaster เป็นอาชีวศึกษา สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นมืออาชีพในการดำน้ำ ซึ่งประกอบด้วยหลักสูตรวิทยาศาสตร์การดำน้ำ และหลักสูตรการดูแลนักดำน้ำ ควบคุมการดำน้ำ การจัดการเรือ ร้านดำน้ำ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดเป็นครูสอนดำน้ำต่อไปได้ เป็นหลักสูตรสร้างงาน สร้างอาชีพของนักดำน้ำเลยทีเดียวก็ว่าได้ ซึ่งการเรียนการสอน เนื้อหาหลักสูตร ภาคทฤษฎีและ ปฏิบัติ ก็ยังอยู่ในกรอบของการดำน้ำแบบสันทนาการอยู่ การเรียนการสอนจะเป็นแบบฝึกงาน ที่มักจะได้ยินว่า Dive Master Trainee (แต่สำหรับผม ผมชอบใช้คำว่า Apprentice มากกว่า)
ส่วน Technical Diver ไม่ใช่สายอาชีพที่ต้องดูแลผู้อื่น แต่เป็นสายนักสำรวจที่ต้องการค้นหาสถานที่ใหม่ๆ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ การดำน้ำที่จะต้องมีความรู้และเทคนิกเฉพาะทาง เพื่อให้วัตถุประสงค์ในการดำน้ำนั้นๆ ซึ่งนักดำน้ำจะต้องรับความเสี่ยงที่มากกว่าการดำน้ำแบบสันทนาการมากมาย เช่นการดำน้ำลึก การดำน้ำในที่ปิด การดำน้ำด้วยอุปกรณ์เฉพาะต่างๆ
การเรียนต่อไม่ว่าสายใดๆ ก็จะมีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอยู่แล้ว ซึ่งนักดำน้ำถ้ามีความตั้งใจ ก็สามารถเรียนทั้งคู่เลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีอันไหนมาก่อนหรือมาหลัง เพียงแต่ Divemaster จะเป็นมืออาชีพในธุรกิจดำน้ำ ที่เป็นงานบริการ หากเราไม่ได้มีพื้นฐานที่ชอบงานบริการ หรือสนุกกับการดูแลลูกค้าคนอื่น ก็อาจจะเน้นไปทาง Technical Diving ที่ได้เรียนรู้ความรู้เฉพาะทางอย่างเจาะลึกมากๆ และไม่จำเป็นต้องดูแลคนอื่นๆก็ได้
สุดท้ายการพัฒนาการดำน้ำ ไม่ควรเป็นการพัฒนาในเรื่องของทักษะอย่างเดียว ควรให้ความสำคัญในการพัฒนาตนเองทั้งเรื่องทักษะ และมุมมองแนวคิดที่เหมาะสมด้วย เป็นเรื่องของศาสตร์และศิลป์ที่ต้องบาลานซ์กันให้ลงตัว จะดีที่สุด
จะเป็น Divemaster/Instructor ที่ Attitude ดี Skill เยี่ยม ก็ไม่จำเป็นต้องทำ Technical Diving
หรือจะเป็น Technical Diver ที่เก่งฉกาจ ไม่ได้รักงานบริการ แค่มีความสุขกับการท้าทายความสามารถตนเองก็พอแล้ว ก็ลุยไปทาง Technical Diver เลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำ Divemaster ก็ได้
อยากเน้นย้ำว่า Divemaster เป็นสายอาชีพ และงานดำน้ำเป็นทั้งงานเซฟตี้ และงานบริการในเวลาเดียวกันซึ่งต้องใช้ soft skill ให้เป็น ครูสอนดำน้ำ และหลีดดำน้ำ ประกอบอาชีพเพื่อหาเลี้ยงตัวเองจากท้องทะเลที่สวยงามของเราทุกคน
