เรกูเลเตอร์ Atomic Aquatics: นวัตกรรมวัสดุและประสิทธิภาพเหนือระดับ
- Sommote Chaicharoenmaitre
- 3 มิ.ย.
- ยาว 2 นาที

เรกูเลเตอร์ของ Atomic Aquatics ได้รับการออกแบบโดย ดีน การ์ราฟฟา (Dean Garraffa) และ ดัก ทอธ (Doug Toth) ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Atomic Aquatics ในปี 1995
ก่อนที่จะก่อตั้ง Atomic Aquatics ทั้งดีน การ์ราฟฟา และดัก ทอธ ได้สั่งสมชื่อเสียงในฐานะนักออกแบบอุปกรณ์ดำน้ำที่มีนวัตกรรมมาตั้งแต่ปี 1976 พวกเขาได้สร้างสิทธิบัตรที่ก้าวล้ำมากมายให้กับ SCUBAPRO ก่อนที่จะแยกตัวออกมาทำ Atomic Aquatics จึงไม่แปลกใจที่
Atomic Aquatics ได้รับการยอมรับในวงการดำน้ำว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายผลิตภัณฑ์เรกูเลเตอร์ (Regulator) ที่เน้นการใช้วัสดุคุณภาพสูงและการออกแบบทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อให้ผู้ดำน้ำได้รับประสบการณ์การหายใจที่ง่ายที่สุด ปลอดภัยที่สุด และทนทานที่สุด
บทความนี้จะเจาะลึกถึงคุณสมบัติเด่นของเรกูเลเตอร์ Atomic Aquatics โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ วัสดุที่ใช้, เทคโนโลยีใน First Stage และเทคโนโลยีใน Second Stage
1. วัสดุที่ใช้ในเรกูเลเตอร์ Atomic Aquatics: ความเหนือกว่าที่สัมผัสได้
Atomic Aquatics เลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับแต่ละชิ้นส่วนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ดีที่สุดในด้านความทนทานต่อการกัดกร่อน ความแข็งแรง และประสิทธิภาพการทำงาน
ไทเทเนียม (Titanium)
คุณสมบัติ: เป็นโลหะเบาพิเศษ (น้ำหนักประมาณ 60% ของทองเหลือง) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานต่อการกัดกร่อนของน้ำเค็มได้ดีเยี่ยมที่สุด (ไม่เป็นสนิม ไม่ผุกร่อน) แข็งแรงมากเมื่อเทียบกับน้ำหนัก ไม่เป็นแม่เหล็ก และไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ (Biocompatible)
การใช้งานใน Atomic: เป็นวัสดุเรือธง ใช้ใน First Stage และ Second Stage ของรุ่น T3 ทำให้เรกูเลเตอร์มีน้ำหนักเบาที่สุดในตลาด ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการล้างน้ำจืดเพื่อป้องกันสนิม และมั่นใจได้ถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก
เซอร์โคเนียม (Zirconium)
คุณสมบัติ: เป็นโลหะที่ไม่ทำปฏิกิริยา (non-reactive Metal) เช่นเดียวกับไทเทเนียม มีความทนทานต่อการกัดกร่อนของน้ำเค็มและสารเคมีสูงมาก (ดีกว่าสเตนเลสสตีลทั่วไป) มีความแข็งแรง แต่มีน้ำหนักมากกว่าไทเทเนียมเล็กน้อย
การใช้งานใน Atomic: Atomic Aquatics ใช้ Zirconium Plating (การเคลือบด้วยเซอร์โคเนียม) กับชิ้นส่วนภายในที่เป็นทองเหลืองใน First Stage และ Second Stage ของบางรุ่น เช่น B2 และ Z2/Z3 เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนและลดแรงเสียดทานของชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ
ทองเหลือง (Brass)
คุณสมบัติ: เป็นวัสดุพื้นฐานที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดใน First Stage ของเรกูเลเตอร์เกือบทุกยี่ห้อ มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงดันสูงได้ดี และง่ายต่อการขึ้นรูป
การใช้งานใน Atomic: ใช้เป็นวัสดุหลักสำหรับโครงสร้าง First Stage ในรุ่น B2, โดยมักจะได้รับการชุบเคลือบผิวด้วยวัสดุที่ทนทานกว่าอย่างโครมเมี่ยม
โมเนล (Monel)
คุณสมบัติ: เป็นโลหะผสม (Alloy) ของนิกเกิลและทองแดง มีความแข็งแรงสูงมาก ทนทานต่อการกัดกร่อนของน้ำเค็มและกรดได้ดีเยี่ยม รวมถึงทนทานต่อการสึกกร่อน (Erosion)
การใช้งานใน Atomic: Atomic Aquatics ใช้ Monel ในชิ้นส่วนภายในที่สำคัญของ Second Stage ที่ต้องสัมผัสกับน้ำและอากาศโดยตรง และต้องการความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอและการกัดกร่อนสูง เช่น สปริง (Springs) และ Pin ในระบบวาล์วบางตัว ทำให้มั่นใจได้ว่าชิ้นส่วนเล็กๆ เหล่านี้จะไม่เป็นสนิมหรือผุกร่อน
สเตนเลสสตีล (Stainless Steel)
คุณสมบัติ: มีหลายเกรด (เช่น 316L, 304) ทนทานต่อการกัดกร่อนในระดับหนึ่ง แข็งแรง และราคาไม่แพง
การใช้งานใน Atomic: Atomic Aquatics ใช้สเตนเลสสตีลเกรดสูง (เช่น 316 Stainless Steel) ในชิ้นส่วนที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน แต่ไม่สัมผัสกับน้ำโดยตรงตลอดเวลา หรือเป็นส่วนประกอบที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการกัดกร่อนมากนัก เช่น สกรู (Screws) และสปริงบางชนิด รวมถึงเป็นวัสดุหลักในรุ่น ST1 Regulator เพื่อให้ความทนทานใกล้เคียงไทเทเนียมในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
2. First Stage: การจัดการแรงดันเริ่มต้นอย่างเหนือชั้น
First Stage ของ Atomic Aquatics ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับแรงดันอากาศสูงจากถังดำน้ำ และลดแรงดันให้เป็น Intermediate Pressure ที่คงที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพการหายใจสูงสุด
Environmental Seal Piston Design (Sealed First Stage)
หลักการทำงาน: นี่คือเทคโนโลยีสำคัญที่ใช้ใน First Stage แบบ Piston (เช่น T3, B2, M1, Z2/Z3) ห้องที่ลูกสูบเคลื่อนที่และกลไกภายในจะถูกซีลอย่างสมบูรณ์จากน้ำและสิ่งแวดล้อมภายนอกด้วยวัสดุซีล และมีการเติมด้วยสารหล่อลื่นซิลิโคน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากน้ำเกลือ ตะกอน ทราย หรือสารปนเปื้อนอื่น ๆ และเป็นการส่งถ่ายแรงดันน้ำจากของเหลว สู่ของเหลว ทำให้ regulator ยังคงประสิทธิภาพไว้ได้ตามเดิม
ประโยชน์:
เพิ่มความทนทานอย่างมหาศาล: ลดการสึกหรอและการกัดกร่อนของชิ้นส่วนภายใน First Stage ได้อย่างมาก
ลดความถี่ในการบำรุงรักษา: ยืดระยะเวลาการเข้ารับบริการได้
ป้องกันการแข็งตัวของน้ำแข็ง (Freeze Protection): ทำให้เรกูเลเตอร์ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในน้ำเย็นจัด
Jet Seat / High-Flow Piston
หลักการทำงาน: เป็นการออกแบบลูกสูบเฉพาะตัวของ Atomic Aquatics ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร มีจุดสัมผัสที่น้อยกว่าและมีการเคลือบผิวที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้ลูกสูบเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ
ประโยชน์:
เสถียรภาพของ Intermediate Pressure: ช่วยลดปัญหา "IP Creep" (แรงดัน IP ที่เพิ่มขึ้นเอง) ทำให้แรงดันอากาศที่ส่งไปยัง Second Stage คงที่
อัตราการไหลของอากาศสูง (High Flow Rate): สามารถส่งอากาศในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการหายใจที่หนักหน่วง
ทนทานเป็นเลิศ: วัสดุและการออกแบบที่แข็งแกร่งทำให้ First Stage มีความทนทานสูง
Balancing Components: First Stage ของ Atomic เป็นแบบ Balanced Design ซึ่งหมายความว่าแรงดันอากาศจากถังจะไม่มีผลต่อความพยายามในการหายใจ ทำให้การหายใจเป็นไปอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าแรงดันในถังจะสูงหรือต่ำ
3. Second Stage: การส่งมอบอากาศที่เหนือกว่า

Second Stage คือส่วนที่ผู้ดำน้ำหายใจเข้าโดยตรง ซึ่ง Atomic Aquatics ให้ความสำคัญกับการหายใจที่เป็นธรรมชาติและนุ่มนวลที่สุด
Automatic Flow Control (AFC)
หลักการทำงาน: ระบบที่ได้รับการจดสิทธิบัตรนี้จะปรับการไหลของอากาศโดยอัตโนมัติเพื่อชดเชยผลกระทบจากความลึกที่เพิ่มขึ้น โดยใช้หลักการของ "Venturi Effect" และการตรวจจับความลึกและแรงดันโดยรอบ
ประโยชน์:
การหายใจที่ง่ายและสม่ำเสมอ: ไม่ต้องเสียเวลามาปรับลูกบิด "Diver Adjustable Flow Control" ด้วยมือ
ลดความเหนื่อยล้า: การหายใจที่ง่ายและเป็นธรรมชาติช่วยลดการออกแรงของปอด ทำให้สามารถดำน้ำได้นานขึ้น
Seat Saving Dynamic Orifice
หลักการทำงาน: ใน Second Stage ของเรกูเลเตอร์ทั่วไป "Seat" (ชิ้นส่วนยางที่ปิด/เปิดช่องลม) จะถูกกดทับกับ "Orifice" (ช่องเปิดที่อากาศไหลผ่าน) ตลอดเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน Atomic Aquatics แก้ปัญหานี้ด้วยการออกแบบ Orifice ให้มีกลไกที่เมื่อเรกูเลเตอร์ไม่ได้ถูกใช้งาน Seat จะลอยตัวออกจาก Orifice เล็กน้อย ทำให้ไม่มีการกดทับกัน และจะสัมผัสกันก็ต่อเมื่อมีการอัดแรงดันอากาศเข้าสู่ระบบเท่านั้น
ประโยชน์:
ยืดอายุการใช้งานของ Seat อย่างมาก: ลดการสึกหรอของชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพง่ายที่สุด
ประสิทธิภาพการหายใจที่สม่ำเสมอ: การที่ Seat ไม่สึกหรอทำให้ประสิทธิภาพการปิดผนึกและการไหลของอากาศคงที่เหมือนใหม่ไปตลอดอายุการใช้งาน
ลดปัญหา Free Flow: ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการรั่วไหลของอากาศที่ไม่ต้องการ
การออกแบบเพื่อการหายใจที่ง่าย (Natural Breathing)
Optimal Lever Ratio: คันโยกภายใน Second Stage ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ใช้แรงกดน้อยที่สุดในการเปิดวาล์ว ส่งผลให้การหายใจเบาแรง
Exhaust Efficiency: ท่อหายใจออก (Exhaust Tee) ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ปล่อยฟองอากาศออกไปอย่างรวดเร็วและมีแรงต้านทานน้อยที่สุด ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด
Comfort Swivel: ในบางรุ่น ท่ออากาศที่เชื่อมต่อกับ Second Stage จะมีข้อต่อหมุนได้ ช่วยให้ท่อไม่บิดงอหรือดึงรั้ง ทำให้สบายปากมากยิ่งขึ้น
Extended Service Interval: ด้วยการรวมกันของวัสดุคุณภาพสูงและการออกแบบที่ลดการสึกหรอ ทำให้เรกูเลเตอร์ของ Atomic Aquatics หลายรุ่น โดยเฉพาะ T3 มีระยะเวลาการเข้ารับบริการที่แนะนำยาวนานถึง 3 ปี หรือ 300 ครั้งการดำน้ำ ซึ่งยาวนานกว่าเรกูเลเตอร์ทั่วไป
โดยสรุปแล้ว เรกูเลเตอร์ของ Atomic Aquatics เป็นผลรวมของการคัดสรรวัสดุที่เหนือกว่า การออกแบบทางวิศวกรรมที่ชาญฉลาด และการนำเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรมาใช้ ซึ่งทั้งหมดนี้มุ่งเน้นไปที่การมอบประสิทธิภาพการหายใจที่เหนือกว่า ความทนทานสูงสุด และความน่าเชื่อถือที่ไม่มีใครเทียบได้ในทุกสภาวะการดำน้ำ ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับนักดำน้ำที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด
Komentarze