Karasu Dive Gear ได้ออกสินค้าในไลน์ดำน้ำใหม่ล่าสุด โดยออกมาเป็นตีนกบทรง Jet Fins ที่นิยมกันในหมู่นักดำน้ำอย่างมาก ซึ่งเราได้ทำการทดสอบในสระว่ายน้ำ และออกภาคทะเลจริงมาแล้ว จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
หน้าตาฟินนั้นจะเป็นดีไซน์ที่คุ้นเคย ลักษณะพิเศษคือเพิ่มเขี้ยวเล็บที่ใบฟิน เพื่อเพิ่มพื้นที่ดันน้ำและการรักษาความแข็งแรงของใบฟินให้ได้นานกว่าเดิม และการทำ texture บนผิวฟินเป็นลายถักเหมือนคาร์บอนไฟเบอร์ สวยงามอย่าบอกใคร
ฟุตพ็อคเก็ตมา 3 ไซส์ XS-S, M-ML, และ L-XL ซึ่งครอบคลุมขนาดเท้าคนไทยได้ครบถ้วน ยกเว้นนักดำน้ำที่เท้าขนาด 46 ขึ้นไปอาจจะสวมใส่ลำบากมาก และหวังว่าแบรนด์จะออกไซส์ XXL มาให้ใช้กันเร็วๆนี้
ก่อนลงน้ำเช็คน้ำหนักฟินสำหรับไซส์ L-XL ได้ที่คู่ละ 2.3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามคาดจากวัสดุประเภท Technopolymer Rubber (TPR) ที่จะให้ความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งานได้ยาวนาน ผิวสัมผัสของฟินจะให้ความรู้สึกเหมือนจับยาง มากกว่าจับพลาสติก ซึ่งนั่นทำให้มันทนต่อการขูดขีดได้ดีกว่าฟินที่เป็นเนื้อพลาสติกนั่นเอง และการที่ฟินเป็นเนื้่อเดียวกัน ไม่ได้เป็น composite ของวัสดุหลายๆประเภทนั้นจะลดความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิต หรือเสียหายจากการแยกกันของวัสดุที่ต่างชนิดกันในชิ้นงาน จึงเป็นหนึ่งในฟินที่มั่นใจได้ว่าจะไม่เสียหายระหว่างทริปหากไม่เอาวัตถุแหลมคมมาเฉือนที่เนื้อฟินจริงๆ รวมไปถึงน้ำหนักตัวที่เป็นมิตรต่อการเดินทางมากๆ และน้ำหนักตัวไม่เบากว่าเพื่อนในตลาด หรือไม่หนักเกินไป ถือว่าเกาะกลุ่มกับเจ้าตลาดได้ดี
Karasu Jet Fins จะใช้เนื้อ compound เฉพาะที่ออกแบบมาไว้สำหรับนักดำน้ำทุกประเภทซึ่งเนื้อฟินนี้มีความแตกต่างกับฟินเจ้าอื่นๆที่ดีไซน์คล้ายกัน เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย จะไม่แข็งเกินไป และไม่นิ่มเกินเบอร์ จากการเปรียบเทียบกับฟินยี่ห้ออื่นๆ ในตลาด ไม่ว่าจะเป็น Eddy Deep6, Tecline Lightjet, Dive Rite XT, OMS Slipstream, Mares Quattro Plus, Gull GT, Apeks RK3, Fourth Element และอื่นๆอีกมากมายที่เคยผ่านเท้าครูๆในร้านมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งความแข็งของใบฟินนั้น ถือว่าทำได้ดีมาก ไม่ได้แข็งที่สุดในกลุ่ม และไม่ได้นิ่มที่สุดในกลุ่ม ซึ่งทำให้การเลือกซื้อฟิน Karasu นั้นไม่ยากเลย เพราะคาดหวังทันทีได้ว่าประสิทธิภาพเป็นอย่างไร
ลงน้ำเท่านั้น บอกเลยว่ารู้เรื่อง เพราะว่าฟินทำงานได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้ ทั้งในเรื่องของความสบาย, พลัง, และการควบคุม
ในส่วนของความสบายนั้นฟุตพ็อคเก็ตในความสบายได้ดีสำหรับเท้าเบอร์ 45 แล้วยังสวมใส่ได้ลงไปใน L-XL ได้อย่างพอดี และให้ความสบายมากและสามารถใส่ดำน้ำได้มากกว่า 2 - 3 ชั่วโมงในน้ำต่อครั้ง และฟินมีการลอยตัวแบบ"ลอยนิดเดียว"ซึ่งแปลว่าฟินจะไม่ดึงขานักดำน้ำให้ลอยขึ้นเมื่ออยู่ในน้ำ และจะไม่ทำให้เท้านักดำน้ำจมเหมือนฟินที่หนังอึ้ง เนื่องจากเมื่อสวมใส่แล้วนั้นน้ำหนักของฟินจะไม่กระทบกับบาลานซ์ของนักดำน้ำ ทำให้นักดำน้ำสามารถอยู่ใน trim ได้ง่ายและนานตลอดการดำน้ำ ลดการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อในการรักษา trim อีกด้วย
ในเรื่องของพละกำลังนั้น ใบฟินมีขนาดไม่ยาวมากเกินไป สามารถเปรียบขนาดกับเพื่อนๆได้ ไม่ได้เล็กกว่าใคร ทำให้พื้นที่ใบฟินไม่ได้น้อยหน้าใคร แต่ด้วยเนื้อฟินที่ไม่นิ่มเกินไป ออกไปทางแข็งเมื่อเปรียบเทียบกันในกลุ่มแล้วนั้น ทำให้มันสามารถพานักดำน้ำเคลื่อนที่ใต้น้ำได้ง่ายมาก ใส่ถังดำน้ำ 4 ใบก็ยังเคลื่อนที่ได้อยู่ แต่ไม่ได้เป็นฟินที่ให้กำลังมากถึงระดับหัวแถว แต่มันมากพอที่จะพานักดำน้ำเคลื่อนที่ในน้ำแน่นอน
ในส่วนของการควบคุมฟิน ซึ่งเป็นหลักสำคัญสำหรับเหล่า technical diver นั้นฟินก็ทำได้ดี ซึ่งเราก็ได้ทำวีดีโอออกมาให้ดูว่า Karasu Fins นั้นทำงานได้ดีไม่แพ้ฟินแนวหน้าของตลาดเลยทีเดียว
ในส่วนของราคานั้น ถือว่าทำมาได้ดีมากๆ เมื่อเทียบกับฟินยี่ห้ออื่นๆในตลาด ซึ่งถือว่า Karasu ทำมาเพื่อให้นักดำน้ำเข้าถึงได้ง่ายมาก โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,000 บาทเท่านั้น เมื่อเปรียบราคากับฟินอื่นๆที่ทำงานได้ใกล้เคียงกันนั้นเรียกได้ว่ามีเงินเหลือเก็บเลยทีเดียว อาจจะราคาถูกกว่าฟินในท้องตลาด 20 - 50% แต่สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนกัน
ฟิน Karasu ทาง Blue Culture Diving มีจำหน่ายแล้วที่ https://shopee.co.th/product/378327544/29864716104/
Comments