ถ้าใครชอบเรือจมหล่ะก็ พัทยาเป็นจุดดำน้ำใกล้เมืองหลวงที่น่าสนใจมาก เป็นเพราะที่พัทยามีเรือจมวางอยู่ถึงเพื่อการดำน้ำลึกถึงสามลำ นั่นคือ
เรือกูด วางอยู่ใกล้เกาะสาก
เรือคราม วางอยู่ใกล้เกาะไผ่
เรือมัตโพน วางอยู่ใกล้เกาะล้าน
การเข้าใจประวัติเรือจม ทำให้การลงไปชมเรือใต้น้ำมีความสนุกสนานมากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นถ้าหากเราศึกษาเส้นทางการดำน้ำเรือจมของเรือลำต่างๆ ซึ่งเรือจมทั้งสามลำในพัทยา มีช่องให้สามารถเข้าไปด้านในได้ แต่ถ้าหากเข้าไปโดยไม่มีความพร้อม ความเสี่ยงอันตรายจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
เรือคราม (ex HTMS Khram (LSM-732), ex USS LSM-469)
เรือครามถือเป็นเรือยกพลขึ้นบกในชุดเรือหลวงกูด และเรือหลวงไผ่ และยังถูกนำมาวางที่ก้นทะเลในบริเวณทะเลพัทยาก่อนใครในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2003
โดยเรือครามวางกระดูกงูวันที่ 27 มกราคม 1945 ที่บริษัท บราวน์ ชิปบิ้ลดิ้ง เมืองฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และปล่อยเรือในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1945 และถูกนำมาใช้ในสมรภูมิเอเชียติก-แปซิฟิก เหมือนกับ LSM-333 จนกระทั่งปลดระวางในวันที่ 29 สิงหาคม 1946
รอดพ้นจากการถูกทำเป็นเศษเหล็กตามชะตากรรมของ LSM ลำอื่นๆ LSM-469 ย้ายมาอยู่กับราชนาวีไทยในวันที่ 25 พฤษภาคม 1962 โดยได้รับหมายเลขเรือ LSM-3 และชื่อเรือกูด จนกระทั่งเปลี่ยนหมายเลขเรือเป็น LSM-713 ในเวลาต่อมา และรับใช้ราชนาวีจนกระทั่งปลดระวางในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2002
หลังจากที่ปลดระวางประจำการแล้ว กองทัพเรือได้พิจารณาเลือก ร.ล.คราม นำมาจัดทำเป็นอุทยานใต้ทะเล ในโครงการอุทยานใต้ทะเลเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษา โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมใต้ทะเลให้เป็นแหล่งศึกษาระบบนิเวศและชีวภาพทางทะเล ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือตามนโยบายรัฐบาล
เรือจมอยู่ในลักษณะวางราบบนท้องเรือที่พื้นทะเลลึก 29 เมตร หัวเรือปิดทำให้ไม่สามารถว่ายทะลุจากหัวเรือได้ กราบขวาเรือมีหอบังคับการเรือตั้งอยู่ โดยยอดหอบังคับการอยู่ที่ความลึก 14 เมตร ดาดฟ้าเรือมีลักษณะเปิดเพื่อให้รถถังจอดได้ ด้านกราบซ้ายขวาจะมีส่วนที่ว่ายน้ำทะลุได้ โดยด้านในหากมีการอัพเดตภาพ penetration plan พี่บูจะรีบนำมาให้ชมกันนะครับ
